เอกลักษณ์ของมวยโคราช

มวยโคราช เป็นมวยลักษณะการเตะต่อยวงกว้าง และมีแม่ไม้อันรุนแรงที่เรียกว่า “หมัดเหวี่ยงควาย” จนมีคำกล่าวยกย่องว่า “หมัดหนักโคราช ฉลาดลพบุรี ท่าดีไชยา ไวกว่าท่าเสา” เอกลักษณ์ของมวยโคราชที่แตกต่างไปจากมวยสายอื่น ๆ คือลักษณะการพันหมัด แบบคาดเชือก โดยจะใช้ด้ายดิบพันหมัดตั้งแต่บริเวณหมัดไปจนเกือบถึงข้อศอก
หมัดเป็นอวัยวะสำคัญในการต่อสู้ระยะประชิด ส่วนเท้าเป็นอวัยวะที่ใช้ในการเตะ ถีบ และใช้ในการเคลื่อนไหว หลบหลีกการต่อสู้ในระยะห่าง ท่ารำไหว้ครูซึ่งเป็นประเพณีปฏิบัติก่อนการชกทุกครั้ง มวยโคราชจะมีท่าที่เป็น เอกลักษณ์เฉพาะตัว คือ “ท่าเดินทักษิณาวรรต” “ท่ากอบพระแม่ธรณี” ส่วน “ท่าถวายบังคม” เป็นชื่อท่าที่เหมือนกับมวยลพบุรี “ท่าย่างสามขุม” เป็นชื่อท่าที่เหมือนกับมวยไชยา แต่ท่าทางการปฏิบัตินั้นมีความแตกต่างกัน (กุลกานต์ โพธิปัญญา, 2562)
ส่วนรูปแบบวิธีการชกและท่าทางการต่อสู้ป้องกันตัวของนักมวยโคราชนั้น จะใช้การ “จดมวย” (ลักษณะการตั้งหมัดเตรียมพร้อมในการชก) นิยมจดมวยทางด้านหนา เต็มตัว งอเข่าเล็กน้อย ลำตัวหันเผชิญหน้าเข้าหาคู่ต่อสู้ นํ้าหนักตัวอยู่ที่เท้าหน้า ส้นเท้าหลังเปิด เท้าที่เดินหน้ากับการใช้หมัดต้องขยับไปในทิศทางเดียวกัน มีท่าทางการจดมวยแบบการก้าวเดินบนปลายเท้า เพื่อให้เตะได้รุนแรง รวดเร็ว และระยะการเตะได้สูงขึ้น เรียกการเตะลักษณะนี้ ว่า “เตะคอขาด” เป็นท่าทางแม่ไม้ที่มีความสง่างามและน่าเกรงขาม การจดมวยและการใช้ฝึกเท้าในการเคลื่อนไหวเดินหน้าถอยหลังนั้น หากฝึกฝนจนชำนาญจะสามารถใช้ วิธีถ่ายแรงและผสมแรงกับการต่อสู้ได้อย่างดี เมื่อคู่ต่อสู้เข้าปะทะจะสามารถเปลี่ยนท่าทางแม่ไม้มวยโคราชและเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็ว



การป้องกันการโจมตีจากคู่ต่อสู้ตามแบบมวยไทย ปกติจะใช้เฉพาะการยกมือและแขนทั้งสองข้างขึ้นเพื่อป้องกันการโจมตีจากคู่ต่อสู้ แต่มวยโคราชจะมีทั้งการยกมือและแขนขึ้นมากัน การใช้มือดึงคอหรือไหล่คู่ต่อสู้เข้ามาในระยะโจมตี รวมถึงการใช้แขนรับใต้ขาคู่ต่อสู้เพื่อป้องกันแรงเตะ เพื่ออาศัยจังหวะการโจมตีจากคู่ต่อสู้ที่ไม่ทันระวังตัว แล้วโจมตีกลับ ครูมวยโคราชโบราณเรียกวิธีนี้ว่า “สำรอกกลับ” ซึ่งลักษณะการสำรอกกลับนี้จะใช้ลวงคู่ต่อสู้ให้คิดว่าผิดพลาด หรืออ่อนแรง เมื่อคู่ต่อสู้จะเข้ามาโจมตีซ้ำ “ท่าถีบสะบัด” ซึ่งเป็นท่าถีบแบบโบราณ คือ เมื่อเท้าสัมผัสร่างกายของคู่ต่อสู้ จึงใช้ปลายเท้ากระแทก ด้วยความรวดเร็วและรุนแรงกดยํ้าอีกครั้ง
ในอดีตการชกมวยนิยมจัดชกในงานศพที่ลานวัด โดยจะให้ทหารตีฆ้องประกาศหานักชกผู้สนใจก็จะมาชกมวยตามนัดก่อนชกจะมีการเปรียบมวย ซึ่งการเปรียบมวยในสมัยนั้นไม่มีกฎเกณฑ์แน่นอนอยู่ที่ความพอใจของคนชกเป็นสำคัญ ดังนั้น จึงไม่มีการชั่งนํ้าหนักและขนาดตัว เพียงแต่คิดว่าตนมีฝีมือทัดเทียมพอจะสู้ได้และเต็มใจ กรรมการก็จะนัดวันชก (เมตต์ เมตต์การุณ์จิต, 2561ข)